Select Page

วันที่ 6 สิงหาคม 2568 ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล รับฟังผลการดำเนินงานของส่วนงาน (University Council Visit : 4) ครั้งที่ 33/2568 ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และรับฟังผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งการพัฒนาและความท้าทายในอนาคต โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และบุคลากร เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น ณ ห้องประชุมเจริญคุณธรรม ชั้น 3 สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และผ่านระบบออนไลน์

1. ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจของส่วนงานในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation และ ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. สร้างงานวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก-ครอบครัวเพื่อสร้างพลเมืองอนาคตในสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย 4 ปีที่ผ่านมา มี 43 โครงการ ได้รับทุนวิจัย 57,902,670.11 บาท
2. ผลักดันนโยบายสาธารณะจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม โดยมีบทบาทเชิงรุกในการออกแบบข้อเสนอเชิงนโยบายและร่วมเป็นคณะทำงานในระดับชาติ เช่น การผลักดันการประเมินและส่งเสริม EF เป็นฐานในการพัฒนาเด็ก นวัตกรรมการเรียนรู้ปฐมวัยเพื่อสร้างพลเมืองอนาคต (Social emotional learning + Inclusive classroom + Nature based education) ระบบการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (THAI-Model) การเลี้ยงดูเชิงบวก การคัดกรองเพื่อคุ้มครองกลุ่มเด็กเปราะบาง ACE การแก้ไข พรบ.มวยปี 2542 การขับเคลื่อนกฎหมาย Car Seat มีงานวิจัยที่นำสู่นโยบายทั้งระดับองค์กรภาครัฐ ภูมิภาคและระดับจังหวัด 4 เรื่อง จัดทำเล่มข้อเสนอเชิงนโยบายจากวิจัย ปี 2564-2567 จำนวน 2 เล่ม Research Sharing 34 ครั้ง เวทีแถลงข่าว 30 ครั้ง
3. สร้างเครื่องมือและแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ในระดับชาติและท้องถิ่นได้ มีนวัตกรรมจากวิจัยที่จดทะเบียน 4 ชิ้น เช่น แบบประเมินสมอง EF เด็ก แบบประเมิน EF ในวัยรุ่น แบบประเมินสติในเด็กปฐมวัย
4. สร้างเครือข่ายความร่วมมือและหุ้นส่วนพัฒนา ในภาครัฐ 16 หน่วยงาน เอกชน 4 หน่วยงาน ต่างประเทศ 5 หน่วยงาน ชุมชนและครอบครัวผ่าน Platform EF ทั่วประเทศไทย และดำเนินโครงการวิจัยใน 7 จังหวัดหลัก ได้แก่ นครปฐม กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ จันทบุรี ระยอง อำนาจเจริญ และน่าน
5. เผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณะ และนานาชาติ: ตีพิมพ์ระดับนานาชาติฐาน Scopus 26 เรื่อง ระดับชาติ 20 เรื่อง จัดประชุมวิชาการระดับชาติ 4 ครั้ง Proceeding เสนอ 30 เรื่อง ให้บริการวิชาการจากงานวิจัยสู่การสร้างรายได้ 1,383,300 บาท Platform EF มีผู้เข้าร่วมจากทั่วประเทศ 20,577 คน มียอดวิวผ่าน Facebook 250,000 ครั้ง

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. ขยายฐานการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สู่การศึกษาต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยพัฒนา รายวิชาสำหรับบุคคลทั่วไปร่วมเรียน (MAP-C สร้างรายได้ 1,245,800 ในปี 2567) พัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะชีวิตให้แก่วัยรุ่น นักศึกษาระดับ ป.ตรี ผ่านรายวิชาการศึกษาทั่วไป (สร้างรายได้ 1,249,972 ในปี 2567) พัฒนาหลักสูตรวิชาโท สำหรับนักศึกษาป. ตรีคณะต่าง ๆ พัฒนาหลักสูตร Non-Degree เชื่อมโยงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
2. พัฒนาระบบฐานสมาชิกการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตด้านการพัฒนาเด็กและครอบครัว (Onlineและระบบ Hybrid Learning) โดยปัจจุบันมีสมาชิกในระบบ 190,192 คน และมียอดการเข้าอบรมกว่า 157,364 ครั้ง มีผู้เรียนครอบคลุม 77 จังหวัด และจัดการเรียนรู้แล้ว 329 คอร์ส มี 14 แพลตฟอร์มที่จัดการเรียนรู้ประจำเดือน สร้างรายได้จากระบบ 11,387,850 ในปี 2567
3. เป็นศูนย์กลางการพัฒนาศักยภาพวิชาชีพด้านเด็กและครอบครัวในระดับชาติ เช่น จัดประชุมวิชาการ/ อบรมหลักสูตร และพัฒนาบุคลากรสหวิชาชีพในด้านการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก ถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ในองค์กรทั่วประเทศ

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
1. พัฒนาระบบบริหารบุคลากรเพื่อเสริมสร้างองค์กรสุขภาวะและความยั่งยืนของทุนมนุษย์ เช่น สนับสนุนสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาวะทั้งกาย ใจ การเรียนรู้ตลอดชีวิต ครอบครัวเป็นสุข คลังสมอง: ระบบการร่วมงานอย่างมีคุณค่าหลังเกษียณ
2. ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมบริการและระบบการเงินที่ยั่งยืน จัดตั้งงานคลังและประกอบการ ช่วยสร้างรายได้จากการบริการวิชาการเพิ่มขึ้น วางระบบบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนพันธกิจของสถาบันในระยะยาว
3. ยกระดับระบบการบริหารองค์กรด้วยกรอบ EdPEx และ Lean เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างมีระบบและยั่งยืน

2. เป้าหมายที่ท่านคาดหวังว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 2 ปีข้างหน้า (ปีงบประมาณ 2569-2570)
ยุทธศาสตร์ที่ 1 World Class Research & Innovation และ ยุทธศาสตร์ที่ 3 Policy Advocacy, Leaders in Professional / Academic Services and Excellence in Capacity Building for Sustainable Development Goals
1. เพิ่มงานวิจัยและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ สหสาขา สังคมศาสตร์+วิทยาศาสตร์ ทั้งระดับชาติและนานาชาติ ที่สามารถใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ให้เป้าหมายของการพัฒนามนุษย์ในระบบการศึกษา สาธารณสุข การปกครองส่วนกลางและท้องถิ่น มีความชัดเจนใน “ภาพพลเมืองอนาคต พลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับภาพสังคมอนาคต ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030
2. เพิ่มผลผลิตการตีพิมพ์ในระดับชาติและนานาชาติ และเผยแพร่ในวงกว้างเพื่อใช้ประโยชน์แก่เด็กและครอบครัว
3. พัฒนากลไกการวิจัย โดยพัฒนาทุนผู้ช่วยวิจัย (Research fellows) และทุนทำวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์ ในโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์สถาบัน พัฒนาพื้นที่วิจัยชุมชนเป็น Social LAB บนพื้นที่เดียวกัน เพื่อสร้างพื้นที่จำลองในการสร้างพลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ เพิ่มโอกาสการใช้ผลงานวิจัยในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ และพัฒนางานวิจัยบนงานบริการ (หรือที่เรียกว่า LAB นวัตกรรมของสถาบัน) ให้เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่ งานวิจัยในศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย คลินิกบูรณาการ ห้องเรียนสมานใจ ห้องเรียน Future School ศูนย์ฝึกการเลี้ยงดูเด็กเสมือนจริง และศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ

ยุทธศาสตร์ที่ 2 Innovative Education and Authentic Learning
1. พัฒนาระบบการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เชิงปริมาณขยายฐานการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตให้มีขนาด 250,000 คน เชิงคุณภาพพัฒนารายวิชา (Courses) ที่เชื่อมต่อภาคปฏิบัติจริงกับวิถีชีวิตในครอบครัว หรือการปฏิบัติวิชาชีพจริงในพื้นที่ของผู้เรียน พัฒนาระบบการสร้างความผูกพันสมาชิกให้คงอยู่และมีบทบาทในระบบ การเชื่อมต่อการศึกษาผู้เรียนทั่วไปกับระบบ Non-Degree และ Degree แบบไร้รอยต่อ
2. พัฒนาหลักสูตรใหม่ทั้ง Degree และ Non-Degree ที่ตอบโจทย์สังคมและ SDGs เพิ่มช่องทางการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิทัล และส่งเสริมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Authentic Learning) อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย (โครงการต่อเนื่อง)
3. ใช้กลไกการตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing) หล่อหลอมวัฒนธรรมฐานสมาชิก เพื่อเป็นฐานพลังการขับเคลื่อน “ภาพพลเมืองอนาคต พลเมืองเพื่อสังคมการพัฒนาที่ยั่งยืน

ยุทธศาสตร์ที่ 4 Management Innovation for Sustainability
– พัฒนาระบบบริหารจัดการด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม เสริมสร้างองค์กรสุขภาวะ และยกระดับความยั่งยืนด้านการเงินและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

36 views